เหตุผลหลักๆ ที่คนอยากจะขึ้นไปทำงานบนเรือสำราญ คงหนีไม่พ้นรายได้ก้อนโตที่วุฒิที่มีไม่สามารถหาได้เมื่ออยู่ที่ไทย รวมถึงความก้าวหน้าในอาชีพที่ใช้ประสบการณ์บนเรือเป็นใบเบิกทาง เหตุผลเหล่านี้ทำให้มีคนไทยจำนวนมากเลือกจะขึ้นไปทำงานบนเรือในตำแหน่งต่างๆ ที่เปิดรับ ทั้งช่างภาพ พนักงานเสิร์ฟ หรือแผนกอาหาร ยอมเหนื่อยทำงานจนผ่านไปสองสามเดือนเงินหลักหมื่นที่ว่าก็อาจเปลี่ยนเป็นหลักแสน มีเงินกลับไปให้คนที่บ้านได้ใช้จ่าย แต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะถึงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอาจมีอุปสรรคมากมายในระหว่างทาง
สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ
ในการขึ้นไปทำงานบนเรือนั้น สิ่งที่บริษัทเรือให้ความสำคัญมากๆ เลยคือเรื่องสุขภาพและโรคประจำตัว ถึงแม้จะผ่านการทดสอบจนได้ขึ้นเรือ แต่เมือตรวจพบโรคประจำตัวก็จะถูกตัดสิทธิ์ทันที ซึ่งบางทีเราเองก็อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังเป็นโรคนั้นอยู่ เพราะแบบนี้จึงต้องหมั่นตรวจสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ ไปรักษาตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อถึงตอนขึ้นเรือที่ต้องตรวจสุขภาพจะได้ไม่มาเสียดาย ทั้งค่าดำเนินการ การสอบ และค่าดำเนินการเอกสารที่ต้องเสียไป
ที่เข้มงวดก็เพราะบางรายที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบซึ่งเป็นโรคติดต่อทางน้ำลาย ก็อาจจะนำไปติดพนักงานบนเรือคนอื่นๆ ได้ หรือ โรคประจำตัวที่อาจกำเริบเมื่ออยู่บนเรือ เพราะบริษัทเรือมีสวัสดิการดูแลพนักงานที่ดีมาก ถ้าเราป่วยมากจนถึงขั้นถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในต่างประเทศ ทางบริษัทจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด และค่ารักษาต่างประเทศนั้นแพงมาก มีตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายในกรณีที่ต้องส่งกลับประเทศอีก
อายุครบตามเกณฑ์แล้วทำงานต่อได้ไหม?
ในแต่ละตำแหน่ง จะมีอายุการรับคนเข้าทำงานต่างกัน เช่นในตำแหน่ง Food Beverage หรือพนักงานบริการ จะอยู่ที่ 20- 35 ปี หลายคนอาจจะเข้าใจผิดในข้อนี้ว่าถ้าตัวเองอายุ 34 แล้วจะเข้ามาทำงานบนเรือได้เพียงแค่ปีเดียว เพราะเมื่อปีหน้าอายุครบ 35 จะถูกปลด ถือเป็นความเข้าใจที่ผิด! เพราะอายุที่กำหนดเป็นเพียงเกณฑ์การรับเข้าทำงาน เท่านั้นไม่ใช่อายุการทำงานแต่อย่างใด เมื่อเข้าทำงานได้แล้ว ขึ้นอยู่กับเรามากกว่าว่ามีแรงพอที่จะทำหรืออยากจะทำงานบนเรือสำราญนานแค่ไหน
ภาษาอังกฤษไม่ดีก็ทำงานได้เป็นเรื่องเข้าใจผิด
คนไทยหลายคนถูกเอเจนซี่หรือบริษัทจัดหางานรวมถึงสถาบันเรียนบางที่หลอกให้จ่ายเงิน โดยมีประโยคคุ้นหูที่เรามักได้ยินบ่อยๆ "ว่าไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษก็ขึ้นเรือไปทำงานต่างประเทศได้" ซึ่งอยากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ เพราะกว่าเราจะขึ้นเรือไปทำงานได้นั้นต้องผ่านการทดสอบทางด้านภาษาขั้นพื้นฐานสำหรับการทำงาน ทั้งการทำข้อสอบ และสอบสัมภาษณ์ หากเราทดสอบไม่ผ่านแค่หนึ่งด่านที่ว่ามา การจะได้ขึ้นเรือไปทำงานนั้นก็ลืมไปได้เลย
พวกที่กล่าวอ้างมาข้างต้นจึงมักมีจุดประสงค์ไม่ดีแฝงโดยการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพื่อให้คนที่สนใจนั้นจ่ายเงินมา และทำการบ่ายเบี่ยงในตอนหลัง และเมื่อตรวจสอบดูดีๆ แล้วก็มักจะเป็นสถาบันที่ผิดกฎหมายไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง
จะขึ้นเรือได้ต้องมีประสบการณ์การทำงานก่อน
ทุกบริษัทของเรือสำราญนั้นมักจะกำหนดไว้ว่าต้องมีประสบการณ์ทำงานในสายงานนั้นๆ มาก่อนขึ้นมาทำงานบนเรือ ประสบการณ์การทำงานจึงสำคัญมาก และเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับคนที่อยากทำแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ทำให้ต้องไปลงเรียนเพิ่มในหลักสูตรสั้นๆ และฝึกงานในโรงแรมตามที่โรงเรียนส่งฝึก และเมื่อขึ้นเรือไปแล้วมีประสบการณ์การทำงานหลายแทรคก็สามารถใช้ประสบการณ์นี้ ย้ายไปทำงานยังบริษัทเรือที่ได้ค่าตอบแทนมากขึ้นได้
ทาง โรงเรียน ไทยโฮเทล แอนด์ ครูซไลน์ เปิดสอนหลักสูตรสำหรับผู้ที่สนใจขึ้นไปทำงานบนเรือสำราญ พร้อมฝึกงานอีกในโรงแรมระดับ 4-5 ดาว มีการสอนภาษาอังกฤษพื้นฐานรวมอยู่ในหลักสูตร โรงเรียนได้รับการรับรองจาก สช. ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเรียนจบหลักสูตรจะได้ประกาศนียบัตรรับรอง สามารถนำไปยื่นเวลาสมัครงานได้จริง รวมทั้งยังลงนาม MOU กับ CTI Thailand เอเจนซี่จัดหางานเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในไทย
สนใจดูรายละเอียดและค่าใช้จ่ายหลักสูตร
เพิ่มเติมได้ที่ 👉 www.thclacademy.com
หรือโทรสอบถาม 061 247 6464
Line @THCLacademy
หรือ Inbox มาที่เพจ THCL Academy
อิสลามสามารถสวมฮิญาบทำงานได้มั้ยคะ หรือมีตำเเหน่งไหนบ้างที่สามารถสวมฮิญาบทำงานได้